เปรียบเทียบ Mercedes-Benz GLC 220d vs GLC 300e เลือกคันไหนดี

เปรียบเทียบ Mercedes-Benz GLC 220d vs GLC 300e 2022 รุ่นไหนน่าเชื่อถือกว่า เปรียบเทียบทั้งสองรุ่นโดยราคา ภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี-คลาส เป็นรถยนต์นั่งแบบ SUV ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยรถรุ่นนี้จะมีตัวถัง 2 รูปแบบ คือ GLC Coupe รถ SUV ทรงท้ายลาดสไตล์รถสปอร์ต และ GLC รุ่นปกติ ที่มีตัวถังท้ายตัดเหมือนกับรถ SUV ทั่วไป วันนี้เราจะไปเปรียบเทียบ GLC 220d vs GLC 300e ดูว่ารุ่นไหนน่าซื้อกว่า ไปดูกัน

GLC ราคา

GLC 220d ราคาเท่ากับ GLC 300e อยู่ที่ 3,699,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม: ราคา Mercedes-Benz GLC220 : ราคาและตารางผ่อน Mercedes-Benz GLC220

ภายนอก GLC 220d vs GLC 300e

เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี-คลาส เป็นรถยนต์ SUV ยกสูงสไตล์รถครอบครัวที่เน้นเรื่องการโดยสาร รองรับการเดินทางในทุกรูปแบบ ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูสุภาพ มีความเป็นผู้ใหญ่

ภายนอก GLC 220d vs GLC 300e

ด้านหน้าของตัวรถ GLC220d และ GLC 300e มีความใกล้เคียงกัน มาพร้อมกระจังหน้าแบบไดม่อนกริลทั้งคู่ และตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG Bodystyling พร้อมกับไฟหน้าแบบ Multibeam LED ดังนั้นหากอยากทราบว่ารถคันใดเป็นรุ่นไหน ให้มองบริเวณโลโก้ด้านหน้าของตัวรถ โดย GLC220d จะมีกล้องติดตั้งอยู่บริเวณใต้โลโก้ ส่วน GLC 300e จะไม่มีกล้องด้านหน้า

ด้านข้างของตัวรถมีความแตกต่างอย่างชัดเจน ตัวกระจกมองข้างของ GLC 220d จะมีกล้องติดมาทั้ง 2 ฝั่ง ส่วน GLC 300e จะไม่มีกล้อง และล้อของตัวรถก็มีความแตกต่างเช่นกัน GLC 220d จะใช้ล้ออัลลอยลาย AMG 5 ก้านคู่ขนาด 19" ตกแต่งด้วยสี Tremolite gray รัดยางขนาด 235/55 R19 ส่วน GLC 300e จะใช้ล้ออัลลอยลาย AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20" ตกแต่งด้วยสีดำ

ด้านท้ายรถจะเห็นความแตกต่างได้ที่บริเวณด้านล่างของตัวรถ โดย GLC 300e จะมีชิ้นกันชนเสริมสีดำที่มีขนาดใหญ่กว่า และยังมีสัญลักษณ์ 4matic ติดตั้งเพิ่มเข้าไปบริเวณด้านขวาด้วย

ภายในห้องเก็บของ มีสิ่งหนึ่งที่ต่างกันนั่นก็คือด้านความจุด้านสูงของตัวรถโดย GLC 300e จะมีความยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย ส่วน GLC220d พื้นที่วางของนั้นจะเรียบไปกับตัวรถ

ภายใน GLC 220d vs GLC 300e

GLC 300 e ตรงหน้าต่างจะมีม่านมาให้ด้วย จะสบายกว่า ส่วน GLC 220d ไม่มีม่านมาให้ สำหรับระบบเครื่องเสียง GLC 300e จะมีชุดลำโพงจาก Burmester ส่วน GLC 220d จะมีลำโพงดำธรรมดา

ภายใน GLC 300 e

โดยไฮไลท์เด่นระหว่าง GLC 300e กับ GLC 220d นั่นคือระบบ Adaptive Cruise control ที่ช่วยให้การเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายมากกว่า และระบบช่วยรักษาระยะห่างพร้อมกับระบบช่วยเบรก ซึ่งมีการทำงานที่นุ่มนวลมาก ๆ ช่วยลดโอกาสขับรถชนท้ายรถคันหน้าได้อย่างดี ในตัว GLC220d มีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือเรื่องกล้อง เพราะมีกล้องรอบคัน 360 องศา ช่วยทำให้ผู้ขับขี่สามารถสังเกตุสิ่งรอบ ๆ ตัวรถได้อย่างแม่นยำ ส่วน GLC 300e จะมีแค่กล้องมองหลังเท่านั้น

ภายใน GLC 220d

เครื่องยนต์ GLC 220d vs GLC 300e

Mercedes-Benz GLC 220d มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง เทอร์โบ พร้อมกับอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1,950 cc จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 7.7 วินาที

เครื่องยนต์ GLC 300 e 4 Matic

GLC 300 e 4 Matic มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1,991 cc ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,300-4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร โดยเมื่อใช้การขับเคลื่อนควบคู่กันแล้ว จะให้กำลังสูงสุดถึง 320 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 700 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 5.4 วินาที

เครื่องยนต์ Mercedes-Benz GLC 220d

ระบบความปลอดภัย GLC 220d vs GLC 300e

ระบบเบรก ABS
ถุงลมนิรภัยรอบคัน
ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
เซ็นเซอร์รอบคัน
ระบบ Hold brake
ระบบเตือนแรงดันลมยาง
ระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก
ระบบล็อกความเร็ว และระบบจำกัดความเร็ว
ระบบเตือนมุมอับสายตา

สรุป

หากคุณต้องการรถสักคันที่ระบบไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย ก็ควรเลือก Mercedes-Benz GLC 220d AMG Dynamic ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบล้วนๆ ความซับซ้อนของระบบที่น้อยกว่า แต่ถ้าคุณชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็ต้องเป็น Mercedes-Benz GLC 300e ตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง ทั้งเรื่องเทคโนโลยี ความแรง และความประหยัด

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและตารางการผ่อนชำระของรุ่นรถได้ที่นี่ https://rakarodthai.com/